อะมิโนวิต สาระน่ารู้
สั่งซื้ออะมิโนวิต : 064-4545524  |  Line ID : @165ecgtq
วิจัยและพัฒนาโดย นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์
: 064-4545524  |  Line ID : @165ecgtq

การเพิ่มน้ำหนักตัว สำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

หลังจากเป็นมะเร็ง ร่างกายจะผ่ายผอมอย่างรวดเร็ว ท้องเสียเป็นประจำ การดูดซึมอาหารไม่ดี ไม่เจริญอาหาร  แทบจะไม่กินอะไร ทำให้สูญเสียเกลือแร่ น้ำ และสารอาหารอย่างรวดเร็ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนหรือท้องเสียก็จะยิ่งสูญเสียสารเหล่านี้มาก


โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง ทำให้ไตเสื่อม

โรคที่เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ที่กลับมาทำร้ายร่างกายเรา แทนที่จะคอยป้องกันโรคให้กับเรา เช่น SLE รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน หนังแข็ง เบาหวานชนิดที่ 1

 

ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเหล่านี้มากขึ้นกว่าในอดีตมาก สาเหตุสำคัญในการเกิดโรคเหล่านี้มาจากความเครียด การรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิตที่ผิดธรรมชาติ ไตเสื่อมที่เกิดจากภูมิคุ้มกันกลับมาทำร้ายไตของเราเอง ก็เป็นโรคในกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน


โรคความดันโลหิตสูง ทำให้ไตเสื่อม

สาเหตุที่ทำให้ไตเสื่อม ที่พบได้บ่อยรองลงมาจากโรคเบาหวาน ก็คือโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ไตเสื่อมเนื่องจาก

 


ไขมันตัวร้ายที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

ไขมันตัวร้าย ไม่ใช่คลอเรสเตอรอลตามที่เราเข้าใจกัน แต่มันคือ ไขมันทรานส์

 

ไขมันทรานส์เกิดจากการเอาน้ำมันไม่อิ่มตัวมาใช้ทอด หรือผัดอาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดการเติมอะตอมไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุลตรงตำแหน่งที่ไม่อิ่มตัว จนเกิดเป็นไขมันอิ่มตัวแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งก็คือไขมันทรานส์ หรือ เกิดจากการเอาไขมันไม่อิ่มตัว มาเติมโฮโดรเจน ด้วยวิธีการทางอุตสาหกรรม ในการผลิตครีมเทียมและเนยเทียม


อาหารที่ส่งเสริมให้เกิดโรคมะเร็ง

จะคัดเลือดมาเฉพาะอาหารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งในร่างกายเราอย่างชัดเจน และยังคงเป็นอาหารที่คนทั่วไป นิยมทานกันในปัจจุบัน 

1. อาหารที่มีน้ำตาลสูง

นอกจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง จะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือดแล้ว ยังส่งเสริมให้เกิดโรคมะเร็งในร่างกายเราด้วย

  • น้ำตาลที่พรวดพราดเข้าสู่กระแสเลือดเรา ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของโรค ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
  • น้ำตาลส่วนเกินที่ร่างกายใช้ไม่ทัน จะไปเป็นอาหารที่เซลล์มะเร็ง ใช้ในการดำรงชีวิต และเจริญเติบโต

ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ไตจะเสื่อม?

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสไตเสื่อมมากกว่าคนทั่วไป คือ

  1. ผู้ป่วยเบาหวาน
  2. ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
  3. ผู้ป่วยที่ใช้ยารักษาโรคใดโรคหนึ่งหรือหลายโรคเป็นเวลานานๆ
  4. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไตเสื่อม
  5. ผู้ป่วยในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเอง
  6. ผู้ป่วยที่ผ่านการให้เคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง
  7. ผู้ป่วยที่ชอบรับประทานอาหาร ที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบจํานวนมาก
  8. ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มจัด
  9. ผู้ที่มีความเครียดจากการทํางาน หรือมีภาวะอารมณ์เครียด
  10. ผู้ที่เข้าสู่ภาวะสูงวัย
  11. ผู้ป่วยที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมอง หรือเส้นเลือดบริเวณอื่นตีบตัน
  12. ผู้ป่วยที่เป็นโรคนิ่ว หรือติดเชื่อทางเดินปัสสาวะเป็นประจำ

 


โรคเบาหวานทําให้ไตเสื่อม

สาเหตุที่พบได้บ่อยมากที่สุด ที่ทําให้ไตของคนเราเสื่อมก็คือ โรค เบาหวาน ... ทำไมโรคเบาหวานจึงทําให้ไตเสื่อม คำตอบคือ ไตเสื่อมจากการควบคุมระดับนําตาลในเลือดได้ไม่ดี


โรคอ้วน .. มีกี่แบบ?

โรคอ้วนมี 2 แบบ คือ
1. อ้วนทั้งตัว เป็นการอ้วนที่มีลักษณะ... มีไขมันกระจายสะสมอยู่ ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ทั่วทั้งตัว
2. อ้วนลงพุง เป็นการอ้วนที่มีลักษณะ... มีไขมันไปสะสมอยู่ในบริเวณช่องท้อง (Abdominal Fat) จํานวนมาก...ไขมันในบริเวณช่องท้อง ซึ่งจะมีโทษต่อร่างกายมากกว่าไขมันใด้ผิวหนัง


กระบวนการขับสารพิษ เพื่อสู้กับโรคมะเร็ง

การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกัน หรือสู้กับโรคมะเร็ง มีหลักการที่สำคัญคือ “เอาพิษออก อย่าเอาพิษเข้า” ต่อจากนั้นจึงบำรุงร่างกาย และดูแลร่างกายตามหลักโภชนบำบัด การขับพิษมี 4 ประการหลัก คือ อุจจาระ ปัสสาวะ หายใจ และเหงื่อ


ซูคราโลส (Sucralose) ทางเลือกสำหรับผู้บริโภค

 ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน โดย 1 ส่วนของซูคราโลสให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายขาวประมาณ 600 เท่า ดังนั้นถ้าชงกาแฟ 1 ถ้วยถ้าใช้น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนชาก็จะให้ความหวานเท่ากับซูคราโลส 0.00333 ช้อนชา (หรือน้ำตาลทรายขาวเพียง 5 เม็ดเท่านั้นเอง) แต่ยังคงให้รสชาติหวานและไม่มีรสขมติดลิ้นใกล้เคียงน้ำตาล ซูคราโลสมีลักษณะเป็นผลึกแข็งสีขาวร่วน ละลายน้ำได้ดีและสามารถใช้ปรุงอาหารร้อนบนเตาได้โดยไม่สูญเสียความหวาน

 


เมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่า ... อ้วน?

มีเกณฑ์กำหนดไว้ที่เป็นที่นิยมคือการหาค่า B.M.I

 

👉 ค่า B.M.I. น้อยกว่า 18.5 = ผอมเกินไป
👉 ค่า B.M.I. เท่ากับ 18.5−< 23 = รูปร่างปกติ
👉 ค่า B.M.I. ระหว่าง 23 - 👉 ค่า B.M.I. ระหว่าง 25-30 = โรคอ้วนระดับที่ 1
👉 ค่า B.M.I. ตั้งแต่ 30-39 = โรคอ้วนระดับที่ 2
👉 ค่า B.M.I. ตั้งแต่ 40 ขึ้นไป = โรคอ้วนระดับที่ 3

 


ผักและผลไม้ ที่ผู้ป่วยโรคไตเสื่อมควร ❌ งดรับประทาน

ผักที่มีค่าฟอสฟอรัส หรือโพแทสเซี่ยมสูง ได้แก่ กะเพราะแดง ผักหวานป่า ผักไผ่ ผักแพงพวย และใบเหลี่ยง

ผลไม่ที่มีค่าโพแทสเซี่ยมสูง เช่น ทุเรียน ตะขบ เชอรี่นอก อินทผาลัม ลูกพลับแห้ง ลำไยแห้ง ลูกเกด ลูกพรุนอบแห้ง

ด้วยความปรารถนาดีจาก อะมิโนวิต เป็นอาหารทดแทนโปรตีนจากธรรมชาติ เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ไตเสื่อม รวมถึงโรค NCDs โดยเฉพาะ

 

อะมิโน วิต 1 ซอง มีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการทั้ง 20 ชนิด ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องย่อย และไม่ก่อให้เกิดของเสียตกค้างในร่างกาย


สัญญาณเตือนที่สังเกตได้ของภาวะไตเสื่อม

ผู้ที่ไตเสื่อมจนมีอาการผิดปกติ แสดงออกให้สังเกตุได้ จะเป็นผู้ป่วยไตเสื่อมในระยะท้ายๆ แล้ว อาการที่พบได้บ่อย เช่น


5 อาหารบำรุงไต

  1. หอมหัวใหญ่ มีพรอสตาแกลนดิน ที่มีคุณสมบัติในการลดความหนืดของเลือด ทำให้ลดอาการโรคไตลงได้
  2. กะหล่ำปี มีวิตามินซี กรดฟอลิก เส้นใย มีโพแทสเซี่ยมต่ำ ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ลดภาระการทำงานของไต
  3. แครนเบอรี ผลไม้ลูกเล็กสีแดง ช่วยเพิ่มความเป็นกรดของปัสสาวะ และลดความเสี่ยงในการเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  4. ปลาสด อุดมไปด้วยโปรตีนและโอเมกา 3 ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง
  5. กระเทียมสด มีสารอัลลิชิน ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงต่อโรคไต และการอักเสบต่างๆ

 

ค่าไต กลับมาดีขึ้นได้ 💪 อะมิโน วิต ยืนหนึ่งเรื่องโรคไต วิจัยและพัฒนาโดย นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์


เหตุผลที่เราควรลดการบริโภค ผลผลิตจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมลง

เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และนมสัตว์เป็นอาหารที่ย่อยยาก จะเน่าเสียและตกค้างในลำไส้เป็นเวลานาน


10 ข้อเพื่อป้องกันมะเร็งของไต้หวัน

 

เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันมีข้อมูลเรื่องการบริโภคอาหารอย่างฉลาดเพื่อป้องกันมะเร็งดังนี้


รู้หรือไม่? อาหารที่มีโปรตีนสูง ทำให้ ”ไตเสื่อม” มากกว่าอาหารที่มีเกลือสูง

ในปัจจุบัน รูปแบบของอาหารเปลี่ยนไปจากเดิมมาก คนส่วนใหญ่นิยมบริโภคอาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว และเห็ดต่างๆ แต่ถ้ารับประทานมากจนเกินไป ไตจะต้องทำงานหนัก เพื่อขับของเสียที่เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน และการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย


ทำไมโรคไตเสื่อม จึงควรทานโปรตีนลดลง

การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงๆ จะเป็นภาระหนักทั้งของตับและไต เพราะตับต้องเปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นยูเรีย และไตต้องขับยูเรียออกมาทางปัสสาวะ

ผู้ป่วยโรตไตเสื่อม จะต้องลดปริมาณการทานโปรตีนจากธรรมชาติลง เพราะถ้าเรายิ่งรับประทานมาก ไตก็ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น

ทางออกที่ดีมาก และปลอดภัยต่อผู้ป่วย คือการใช้กรดอะมิโนเข้าไปชดเชยปริมาณโปรตีนจากอาหารที่ลดลง